วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

OS — Beauty and the Beast : Doten

แล้วอยากรู้ไหมว่ามันเป็นยังไง..” ใช้แขนแกร่งทั้งสองข้างค้ำยันคร่อมร่างบางเอาไว้ ก้มลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นๆข้างหู ก่อนจะยกยิ้มแบบที่ชอบทำ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่เหมือนเดิมกับที่เคยมอบให้ร่างบางตรงหน้า ริมฝีปากร้อนจูบประทับลงที่ซอกคอขาว ส่งผลให้เตนล์หดคอหนีอย่างนึกรังเกียจ สะบัดหนีอีกครั้งเมื่อริมฝีปากร้อนแปรเปลี่ยนเป้าหมายมาอีกฝั่งของซอกคอ

ปล่อยนะ อื้อน้ำเสียงที่เคยใสบัดนี้ติดแหบและอ่อนแรง เม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออีกคนประทับริมฝีปากลงมา ขัดขืนสู้อีกคนด้วยสองมือที่เรี่ยวแรงน้อยกว่าปกติที่ควรจะเป็นเนื่องจากขาดสารอาหาร ทั้งทุบตี ทั้งจิกทั้งข่วนจนเกิดรอยที่อกกว้างทับกับรอยแดงจากความร้อนเมื่อครู่ ฟันคมกัดลงที่ริมฝีปากล่าง บดขยี้จนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเผยอริมฝีปากออกให้อีกคนใช้โอกาสนี้สอดแทรกลิ้นร้อนเข้ามาภายใน ตวัดไล่ต้อนกับลิ้นของอีกฝ่ายที่หลบหนีอย่างไร้หนทาง

ดวงใจเหมือนถูกเงามืดเกาะกุมทั่วหัวใจ รู้สึกหมดหวังไร้หนทาง มองไปก็เจอแต่เพียงความมืดในห้องที่แม้จะหรูหราแต่มันไม่ได้น่าอยู่เลยสักนิด หยดน้ำตาที่ไม่เคยไหลให้ใคร สุดท้ายมันหลั่งรินออกมาเพราะการกระทำของผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้

ฮึก.. ปล่อยฉันไปเถอะ..ยกสองมือขึ้นพนมกลางอก ริมฝีปากคร่ำครวญพรรณนาให้อีกคนปล่อย เมื่อร่างสูงยืดตัวขึ้นใช้สองมือถอดเข็มขัดที่คาดอยู่บนห่วงกางเกงออก ก่อนจะปลดกระดุมพร้อมกับดึงรั้งซิบกางเกงลง ไร้ซึ่งความปราณีในหัวใจ ก้มประทับริมฝีปากกับอวัยวะเดียวกันอีกครั้ง

ก็อุตส่าห์จะทะนุถนอมดูแลอย่างดี.. แต่คงไม่ชอบกระชากเข้าที่กลุ่มผมนุ่มจนใบหน้าเชิดขึ้น ส่งเสียงเย็นยะเยือกออกผ่านไรฟัน ถ้าใครได้ยินก็คงกลัวไปถึงขั้วหัวใจ ให้ร้องไห้อ้อนวอนแค่ไหนอสูรร้ายก็คงไม่ฟัง

ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปที่ซอกคอระหงที่เห็นเส้นเลือดชัดเจน ใช้ลิ้นร้อนลากจากแอ่งไหปลาร้าสู่ปลายคาง ก่อนจะดูดดุนจนเกิดเสียง จูบซับอีกครั้งแรงๆ ก่อนที่จะใช้เขี้ยวกัดไปบนเนื้อขาวจนเกิดรอยฟัน ส่งผลให้ร่างบางต้องหลุดเสียงร้องออกมา

แคว่ก

เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากออกจนกระดุมหลุดออกจากรังดุม เผยให้เห็นยอดอกสีสวยที่ตัดกับผิวขาวล่อตาล่อใจ มือหนาหยิบเข็มขัดที่ตกอยู่ข้างตัวขึ้นมา รวบแขนบางทั้งสองข้าง ก่อนจะมัดเข้าหากันด้วยเข็มขัดหนังของตน ก้มลงใช้ลิ้นเลียยอดอกสีหวานอย่างไม่รีรอ ขยับลิ้นวนไปวนมาทั้งสองข้างด้วยกามารมณ์ที่พุ่งสูง

ม..ไม่นะ ใครก็ได้ช่วยที ฮือ.. พ.. พี่แทยงร้องไห้ปานจะขาดใจ พรรณนาหาคนช่วยทั้งๆที่รู้ว่าคงไม่มี อยู่ๆสมองก็นึกถึงหน้าของคนที่ตนรัก เป็นปกติของคนที่ตกอยู่ในความกลัว จนเผลอคร่ำครวญชื่อออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ว่าไงนะเมื่อได้ยินชื่อมารหัวใจหลุดออกมาจากปากของร่างบางก็ต้องชะงัก ยืดตัวขึ้นนั่ง จ้องมองมาที่ร่างบางใต้ร่างด้วยสายตาอ่านไม่ออก

อยู่กับกูอย่าพูดถึงชื่อคนอื่นเข้าใจไหม!” เอ่ยเสียงดังจากโทสะภายในใจ ก่อนมือหนาจะง้างออก และตบลงที่แก้มใสจนใบหน้าหันไปอีกทาง ความแรงแบบไม่ยั้งทำให้เกิดรอยแดงของฝ่ามือบนแก้มใส

โอ๊ะ ผมขอโทษ.. เจ็บไหมที่รัก..น้ำเสียงอ่อนลงราวกับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ สัมผัสลูบไล้แผ่วเบาที่รอยแดงบนแก้มด้วยใบหน้ารู้สึกผิด ก้มลงจูบแก้มใสเต็มรัก แต่เตนล์กลับมองเขาด้วยความรังเกียจ

ทำไมฉันจะเรียกชื่อแฟนตัวเองไม่ได้!” ตอกคำพูดใส่หน้า พูดดังๆให้เสียงกระแทกเข้าหู เพื่อประชดคนบนร่าง เพียงไม่นานสองข้างแก้มก็รับรู้ได้ถึงแรงบีบจากร่างสูง ราวกับว่ากระดูกจะแตกหักลงเสียตรงนี้ เป็นคนไม่หลาบจำ ไม่ยอมจำว่าเวลาอสูรโกรธมันเป็นอย่างไร ไม่ยอมคิดก่อนว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรทำ

หึ คุณคงไม่มีโอกาสกลับไปหามันอีกแล้วแหละ..สองมือขยี้เม็ดทับทิมทั้งสองข้าง จนคนถูกกระทำหายใจติดขัด หน้าท้องขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ ผสมปนเประหว่างความรู้สึกสองทาง ทั้งกลัว ทั้งรู้สึกแปลก..

โดยองก้มลงใช้ริมฝีปากบรรจงจูบที่หน้าอกขาว ลากไล้ลงเรื่อยๆจนมาถึงหน้าท้องที่ขยับกระเพื่อมสั่นไหว สอดลิ้นร้อนเข้าที่ร่องลึกกลมกลางท้อง ดูดดุนมันจนเกิดเสียงดังจวบจาบน่าอาย ก่อนจะขยับต่ำลงเรื่อยๆถึงหน้าท้องกับกางเกงตัวบางหมิ่นแหม่ ที่เขาจับใส่ให้ร่างบางตอนยังไม่ได้สติ สองมือเกี่ยวขอบยางยืดลง ก่อนจะดึงรั้งลงไปติดอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อเห็นว่ามันติดโซ่ที่ข้อเท้า จึงตัดสินใจคว้าพวงกุญแจที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงหลังออกมาไขแม่กุญแจขนาดใหญ่ออก ลากโซ่ตรวนเย็นเฉียบออกผ่านข้อเท้าช้าๆ จนในที่สุดข้อเท้าบางก็ได้รับอิสระ พร้อมกับกางเกงขาสั้นตัวบางลื่นหลุดลงจากปลายเท้า

มือหนาประคองเท้าสวยข้างที่เคยถูกพันธนาการขึ้นสูง จูบเบาๆที่ปลายนิ้ว ไล้ลงมายังฝ่าเท้าอย่างไม่นึกรังเกียจ มีแต่ความรักและความหลงใหลไม่มีที่สิ้นสุด แลบลิ้นเลียตามขาเรียว ก่อนจะยกขาข้างเดิมพาดบนบ่ากว้าง ใช้ลิ้นเลียขาอ่อนจนขนลุกชูชัน ดูดดึงเนื้อหนังมังสาอย่างหยอกล้อ ปรากฏเป็นรอยแดงสีกลีบกุหลาบชัดเจน ปล่อยให้คนถูกกระทำนอนตัวสั่นเหมือนลูกนกตกจากรัง

จูบแผ่วเบาลงที่ปลายหยักของท่อนสีหวานกลางลำตัว หยอกล้อกับมันด้วยเรียวลิ้นร้อนแสนช่ำชอง จนปลายท่อปริ่มน้ำสีใสน่าอับอายยิ่งนักสำหรับเจ้าตัว ไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกนี้มาครอบงำจิตใจ ไม่ควรหลงระเริงไปกับสัมผัสหยาบโลนที่อีกฝ่ายมอบให้

อย่าคิดได้ดังนั้นก็ใช้เรียวขาที่พาดอยู่บนไหล่กว้าง ถีบเข้าที่ศีรษะอีกคนจนใบหน้าหันไปอีกทาง ด้วยความที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อโดนถีบอีกครั้งโดยองก็ลงมานอนอยู่บนเตียงกว้าง หัวใจเต้นระรัวเมื่อเห็นโอกาสหลบหนี ใช้ลำแขนทั้งสองข้างของตนเองพยุงตัวขึ้นอย่างทุลักทุเล ก่อนที่จะหย่อนสองขาลงบนพื้นกระเบื้องข้างเตียง โดยที่สมองไม่ทันนึกคิดระมัดระวังให้รอบคอบจึงถูกเศษกระเบื้องแหลมคมปักเข้าที่สองเท้าเปลือยเปล่า ความเจ็บแสบแล่นริ้วจนใบหน้าเหยเก ปล่อยกายลงบนพื้นเย็นเฉียบด้วยความเจ็บแสบแสนสาหัส ทิ้งตัวลงทับเศษกระเบื้องที่เหลือ ความแหลมคมของมันปักเข้าตามอวัยวะที่ใช้รับน้ำหนัก

เลือดสีแดงสดหลั่งรินจนได้กลิ่นคาวเลือดติดจมูก น้ำหูน้ำตาไหลเมื่อก้มมองบาดแผลฉกาจฉกรรจ์ของตนเอง ประกอบกับมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้าของตนเอง ในใจมันร่ำร้องบอกว่าตนนั้นไม่มีอะไรที่ต้องเสียอีกแล้ว ราวกับสติหลุดลอยไปในที่ไกลแสนไกล มือบางที่หลุดพ้นจากเข็มขัดหนาจับเศษกระเบื้องชิ้นใหญ่สุดที่ปักอยู่บนลำแขนของตนเอง กระชากมันออกจนเลือดไหลทะลักออกมามากกว่าเดิม

แม้แต่พระเจ้ายังไม่เข้าข้างคุณเลยที่รัก.. คุณไม่มีวันหนีผมพ้นชะโงกหน้ามองลงมาจากเตียงกว้าง กับรอยยิ้มเย็นๆของอีกฝ่าย ก่อนที่จะลงมานั่งยองๆอยู่ข้างๆเตนล์โดยที่ไม่เกรงกลัวว่าเศษกระเบื้องจะปักเข้าที่เนื้อหนังของตนเลยสักนิด

คนอย่างแกมันสมควรตาย!” บันดาลโทสะออกผ่านทางวาจา ง้างมือขึ้นสูงก่อนจะกระแทกลงเต็มแรงที่บ่ากว้าง เศษกระเบื้องแหลมคมปักลงที่มัดกล้ามเนื้อ ก่อนที่เลือดสีแดงสดจะไหลทะลักออกมาจนน่ากลัว แววตาสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะกลับไปเป็นดังเดิม มือหนาจับเข้าที่เศษกระเบื้องบนบ่า ข่มกรามแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนยามที่ดึงมัน กระชากเต็มแรงอีกครั้งจนเลือดไหลย้อนตามเศษกระเบื้องที่หลุดออก

ชอบใช้ความรุนแรงก็ไม่บอกมือหนากระชากแขนบางที่เต็มไปด้วยบาดแผลให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะผลักลงไปนอนบนเตียงกว้างดังเดิม จุกจนต้องเบ้หน้า ประกอบกับความเจ็บแสบจากเศษกระเบื้องที่ยังไม่จางหาย ตามลงมาทาบทับทันทีไม่ปล่อยโอกาสให้พยศหนีอีกเป็นครั้งที่สอง ใช้ท่อนแขนแกร่งบังคับสองขาให้อ้าออก เผยให้เห็นช่องทางสีหวานที่ขมิบเป็นจังหวะเชิญชวนให้ร่างสูงอยากเข้าไปสำรวจ จนต้องสอดเรียวนิ้วเข้าไปภายในช่องทางคับแน่น ขยับเร็วและแรงจนคนใต้ร่างหายใจไม่ทัน ไม่ใช่เป็นเพราะเรียวนิ้วที่ปรนเปรออย่างช่ำชอง แต่เป็นเพราะมือหนาที่กำรอบคอขาวเอาไว้ เศษกระเบื้องอันเดิมที่ตอนแรกกำคามือ มันปักเข้าที่ลำคอสวย รวมถึงฝ่ามือของตัวเขาเอง จนเลือดสีแดงสดไหลผสมปนเปกัน หลั่งรดลงสู่ผืนเตียงกว้าง เกิดรอยเลือดสีแดงเป็นดวงๆ

ป..ป..ปล่อย..อึก..สองมือพยายามแกะมือหนาที่พันรอบคอออก ซึ่งโดยองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มทนไม่ไหว เรียวนิ้วขยับถี่และเร็วขึ้น ก่อนจะกระชากออกมาเพียงเพราะแค่รู้สึกอยากพอ

แค่กๆ..ไอโคกครากจนน่ากลัว สองมือกำรอบคอของตนเอง ปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินจนน่าสงสาร ในขณะเดียวกันก็ดูน่าอดสู ราวกับว่าถูกคนรอบข้างรุมถีบให้ตกลงไปในเหวลึก ทั้งมืดมิดและไร้หนทาง ไม่สามารถปีนป่ายด้วยสองมือสองขาพาตนเองขึ้นมาได้ เป็นความรู้สึกอยากตายๆไปให้รู้แล้วรู้รอด

ไม่ทันได้พักหายใจ ก็ต้องถลนตาสู้ความมืดภายในห้อง เชิดหน้าอกหดเกร็งมือ จนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อหนังสีขาว เมื่อความเจ็บแสบแล่นริ้วที่ช่องทางด้านหลัง มนุษย์ต่ำช้ากระแทกแก่นกายของตนเองเข้ามาจนสุด ป่าเถื่อนไร้อารยธรรมราวกับสัตว์ป่ากระหายเซ็กส์ เอาๆกันเพื่อให้จบๆไป

เอนกายก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากสีซีดไร้ซึ่งเลือดหล่อเลี้ยง ก่อนจะขยับกายกระแทกเป็นจังหวะแรงๆตามอารมณ์ของตนเอง ความคับแน่นและเผือดเคืองไร้ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงทำให้ช่องทางสีหวานแดงช้ำ ตามด้วยเลือดสีแดงที่ไหลออกมา กลายเป็นน้ำหล่อลื่นให้ร่างสูงได้ขยับกายสุขสมกับบทบรรเลงที่ผู้รับไม่ได้เต็มใจร่วมบรรเลงไปด้วย

ร้องไห้จนน้ำมูกไหล แทบหายใจไม่ทันจนต้องเผยอริมฝีปากกอบโกยออกซิเจนเข้าปากเพื่อต่อลมหายใจ ก่อนที่จะกลายเป็นศพนอนตายอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ร่างกายขยับไปตามแรงอารมณ์ที่อีกฝ่ายกระแทกลงมา เสพสมร่างกายของเขาราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่ไม่มีลมหายใจ เตนล์กัดริมฝีปากของตนเองแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน

อา...ร่างสูงเชิดหน้าขึ้น ครางต่ำด้วยสีหน้าสุขสมในกาม จนคนมองอยากจะเอามีดเล่มยาวแทงอีกคนให้ตาย เพียงไม่นาน ความคับแน่นของช่องทางสีหวานก็ทำให้โดยองไปสู่ฝั่งฝัน ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกไปพร้อมกับเสียงครางต่ำครั้งสุดท้าย มือหนาจับเข้าที่แก่นกายตนเอง ก่อนจะค่อยๆดึงมันให้หลุดออกจากช่องทางบวมช้ำ น้ำสีขุ่นที่อัดฉีดเข้าไปเมื่อครู่ไหลย้อนออกมาปนเปกับสีแดงของน้ำเลือดและเปรอะบนที่นอนสีขาว

เตนล์กอดก่ายร่างกายบอบช้ำของตนเองด้วยสองแขนอันสั่นเทา ตระกองกอดหดตัวเข้าหากันปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินลงมาไม่ขาดสาย ถูกมือหนากระชากให้เชิดหน้าขึ้น มองค้อนกลับไปด้วยแววตาวูบไหว


ผมรักคุณนะเตนล์..ก้มลงกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่จะใช้เศษกระเบื้องแหลมในมือ กรีดไล้แผ่วเบาที่ใบหน้าสวย จนเกิดเป็นรอยที่ข้างแก้ม ตามด้วยเลือดสีสดที่ไหลซิบออกมาจากบาดแผล ดวงตาสีนิลพินิตดูเศษกระเบื้องชุ่มเลือดด้วยแววตานิ่งไม่ไหวติง ขยับเข้ามาชิดใบหน้ามากขึ้น จนมาหยุดค้างอยู่ที่ริมฝีปาก ก่อนจะแลบปลายลิ้นออกมาระเลียดเลียชิมความคาวของรสเลือด พร้อมกับใบหน้าที่ยกยิ้มแสนมีความสุข



กลับไปอ่านต่อเล้ย https://writer.dek-d.com/11842/writer/viewlongc.php?id=1535539&chapter=6

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น